วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

ต้นไม้ยามเล็กต้องดูแลเขา โตขึ้นเขาจะดูแลเรา

ต้นไม้ยามเล็กต้องดูแลเขา โตขึ้นเขาจะดูแลเรา


มีคนถามผม ทำไมอาจารย์ปลูกพืชอะไร เห็นมันโตมันงามดีจัง ทำไมพืชที่ปลูกเองที่บ้านไม่งามเหมือนของอาจารย์เลย ปุ๋ยก็ใส่ตามสูตรที่เขาแนะนำ น้ำก็รดสม่ำเสมอ ทำไมมันไม่ค่อยโต

ดูอย่างมะละกอก็ได้บ้านอาจารย์ไม่เห็นเป็นโรคอะไรเลย ทำไมที่บ้านหนูตอนแรกมันโตดีจัง ไม่กี่เดือนโรคก็กินตายหมด มะเขือก็เหมือนกัน มะละกอตายหนูก็ไปลงทุนปลูกมะเขือ มะเขือเก็บได้รอบเดียวใบเหลืองด่างหมดเลย

มาบ้านอาจารย์เห็นมะเขือต้นเดิมยังอยู่เลย ไม่เห็นมันเป็นโรคอะไรเลย ทำไมของหนู มันมีแต่โรคปลูกไม่กี่เดือนมันก็ยืนต้นตายหมด
มะนาวบ้านอาจารย์มาทีไรเห็นลูกดกเต็มต้นไปหมดไม่เห็นมันดอกร่วง ลูกร่วง โดนแมลงหนอนกินเหมือนบ้านหนูเลยถามจริง ๆ เถอะใส่ปุ๋ยอะไร

ผมยิ้ม(ขอบคุณที่ชม) แล้วตอบว่า ใส่ปุ๋ยความรัก ถ้าเรารักใครสักคนเราต้องหาคำตอบให้ได้ว่า เขาชอบอะไร เขาไม่ชอบอะไร เขามีพฤติกรรมแบบไหน

ปลูกพืชก็เช่นกัน ต้องศึกษาถึงธรรมชาติของพืชแต่ละชนิดที่เราปลูกว่าพืชที่เราปลูกชอบแบบไหน เช่นมะละกอ มะนาวไม่ชอบน้ำ เราก็อย่าให้น้ำเขามากไป ถ้าให้น้ำมากเกินไปรากก็จะเน่า ใบก็จะเหลือง โรคต่าง ๆ ตามมามากมาย ความเป็นกรดเป็นด่างของพืชแต่ละชนิดที่เราปลูกเขาต้องการประมาณไหน เช่นมะละกอเขาต้องการ 6-7 เราก็ต้องปรับปรุงดินให้มีความเป็นกรดเป็นด่างของดินใกล้เคียงหรืออยู่ในช่วงนี้

ความรักเป็นสิ่งสำคัญ อย่าปลูกพืชเพื่อหวังผลประโยชน์ตอนเก็บผลผลิต แต่จงใส่ใจตั้งแต่ต้นพืชต้นเล็ก ๆ ดูแลเอาใจเขาเหมือนเราเลี้ยงลูก แม่สอนผมว่า " ให้รักต้นไม้ทุกต้นที่ปลูก เหมือนที่แม่รักลูก"


วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคลื่อนที่จากวัชพืช

โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคลื่อนที่จากวัชพืช


หน้าฝนนี้หญ้ารกใช่ไหม เรามาทำโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์กันเถอะ 
มันเป็นพื้นฐานที่ง่ายมาก ๆ สำหรับการทำเกษตรอินทรีย์
ถ้าใครมาเยี่ยมที่ชมรมฯ จะเห็นเจ้าตัวนี้วางกระจายไปทั่วบริเวณหลายตัวเลยทีเดียว                           ตรงไหนที่เราปลูกพืช ตรงนั้นก็จะมีโรงงานปุ๋ยเคลื่อนที่กระจายตัวอยู่
มันช่วยเปลี่ยนหญ้ารก ๆ ให้เป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยปรับปรุงดินที่เยี่ยมยอดมาก ๆ
หลังจากหมักประมาณ 30-45 วัน เราก็ได้ปุ๋ยชั้นยอดไว้ใส่ต้นไม้ไว้ปรับปรุงดินแล้วครับ


การทำปุ๋ยหมักเคลื่อนที่ : ให้นำหญ้าหรือวัชพืชที่ขึ้นรกในแปลงใส่ในโรงงานปุ๋ยให้เกือบเต็มจากนั้นนำขึ้วัวนม 1 กระสอบเททับหน้าแล้วเอา ไวท์อีเอ็ม 500 ซีซี. ลิตรผสมน้ำ 50 ลิตรใส่บัวรดน้ำราดบนกองปุ๋ยแล้วเอาเศษหญ้าปิดหน้า  รดน้ำทุกวันเช้า-เย็น เป็นเวลา 30-45 วัน 


ประโยชน์ของโรงงานปุ๋ยหมักเคลื่อนที่
1.    เปลี่ยนหญ้ารก ๆ ให้กลายเป็นปุ๋ยชั้นยอด
2.    นำปุ๋ยที่ได้จากการหมักประมาณ 1 เดือนไปใส่ต้นไม้
3.    นำปุ๋ยหมักที่ได้จากการหมักประมาณ 1 เดือนไปปรับปรุงดิน
4.    นำปุ๋ยหมักไปผสมดินปลูก ต้นกล้าจะงอกงามดีมป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าไปในตัว
5.    ช่วยลดต้นทุนการผลิตพืช ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี

 วิธีการใช้ และอัตราการใช้ปุ๋ยหมักเคลื่อนที่



-      สำหรับพืชไร่ พืชผัก ใช้ 2-3 กำมือ โรยบริเวณโคนต้น แล้วพรวนดินกลบปุ๋ยหมัก
-      สำหรับไม้ยืนต้น ให้ขุดหลุม 1  หน้าจอบแล้วใส่ปุ๋ยหลุมละ ½ กิโลกรัม ใน 4 ทิศ หรือหว่านรอบทรงพุ่ม 2-3 กิโลกรัมแล้วพรวนดินกลบปุ๋ย
-      สำหรับผสมดินปลูกพืช ใช้ปุ๋ยหมักเคลื่อนที่ ปลูกพืชกระถางแบบไร้ดิน





ขั้นตอนทำโรงงานปุ๋ยอินทรีย์แบบง่าย ๆ ดังนี้



1.ไปตัดไม้ไผ่ หรือไม้กระถิน มาทำเสาหลัก 4 ต้น ความสูง 1.5เมตร
2. เชื่อมเสา 4 ต้น ด้วยไม้ความยาว 70 เซ็นติเมตร 4 ทิศ ให้ทำ 3 ช่วง แต่ละช่วงห่างกัน 45 เซ็นติเมตร
3.นำแสลน ขนาด 80 เปอร์เซ็นต์ มาหุ้ม
แค่นี้โรงงานปุ๋ยอินทรีย์เคลื่อนที่เอนกประสงค์ก็พร้อม ทำการผลิตปุ๋ยได้แล้ว


ไม่สงวนลิขสิทธิ์ทั้งภาพและบทความ  คัดลอกไปทำกันได้เลยครับ

ไวท์อีเอ็ม  เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์สีขาว  ทำวัชพืชให้เป็นปุ๋ยหมักโดยไม่ใช้กากน้ำตาล
ขนาด 1 ลิตร 300 บาท โปรโมชั่น ซื้อ 2 ลิตรแถม 1 ลิตร                                                                          
สั่งซื้อ
ติดต่อ ชมรมเกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า
โทร 0860596790
ID line : aoacthai
E-mail : pranpha@gmail.com


หมายเลขบัญชีชำระค่าสินค้า


123-2-45945-6 ธนาคารกสิกรไทย สาขาลำนารายณ์
ชื่อบัญชี ประยงค์ แก้วหมุน
การจัดส่งสินค้า
จัดส่งทางไปรษณีย์ EMS ทั่วประเทศ ระยะเวลาการจัดส่ง 1-2 วัน


วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อินทรีย์วัตถุ (organic matter)


"ผมใส่ปุ๋ยไปไร่ละตัน ทำไมมันสำปะหลังผมมันไม่ค่อยลงหัวเลยครับ 1ปีผ่านไป ถอนออกไปขาย หัวมันผมยังกับ ตัวไส้เดือน " มันขาดอะไรหรือครับอาจารย์" เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง คนขนยัน ถามผม
ผมก็เลยย้อนกลับไปว่า สงสัยจะขาดน้ำครับ ปีนี้ประเทศไทยแล้งจัด " ไม่เลยครับอาจารย์ผมปลูกมันน้ำหยด ให้มันกินทุกอย่าง ปุ๋ยก็ให้ น้ำก็ไม่ขาด ต้นโตดีแท้ แต่หัวไม่มี " พาผมไปดูแปลงมันที่ถอนแล้วได้ไหม ผมบอก
ไปถึงแปลงเกษตรกร ผมตอบเขาทันทีว่า ดินพี่ขาดอินทรีย์วัตถุ (organic matter) เพราะผลจากการวัดค่าดิน มีค่าความเป็นกรดสูงมาก ดินแข็งกระด้าง ราดน้ำยังไม่ค่อยจะลงเลย
อินทรีย์วัตถุคืออะไร มีขายที่ไหน กระสอบละกี่บาท ผมจะซื้อมาใส่ เกษตรกรคนเก่ง โยนคำถามใส่ผมทันที
วันนี้มารู้จักอินทรีย์วัตถุกันนะครับ
อินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการเน่าเปื่อยผุพังสลายตัวของ เศษซากพืชและสัตวที่ทับถมกันอยูในดิน อินทรียวัตถุมีปริมาณธาตุอาหารพืช อยู่น้อย แต่มีความสำคัญในการทำใหดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและถายเท อากาศไดดี ทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ในดิน
ปริมาณอินทรย์วัตถุในดินที่พืชส่วนใหญ่ต้องการ คือ 3-5 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันดินที่ใช้เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจในประเทศไทย มีอินทรีย์วัตถุในดินไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ของอินทรีย์วัตถุ พูดกันให้ชัด ๆ ว่ามันประโยชน์อย่างไร คำถามนี้คงเป็นคำถามที่หลายคนอยากถามผม ผมก็ตอบชัด ๆ ว่า พืชกินอาหารโดยการแลกเปลี่ยนอิออน ไม่ได้กินสารประกอบ อินทรีย์วัตถุมีประจะเป็นลบมีหน้าที่จับประจุบวก ถ้าไม่มีอินทรีย์วัตถุ(ประจุลบ) ธาตุอาหารพืชที่เป็นประจุบวก พืชก็นำไปใช้ได้น้อย หรือ นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย
ยุ่งละสิ ถ้าหลายคนพอมีความรู้เรื่องเกษตรอยู่บ้าง ก็คงพอสรุปได้ว่า พืชต้องการธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง คือ N P K Ca Mg S ธาตุอาหารเหล่านี้แตกตัวเป็นอิออนให้ประจุบวกหมดเลย ยกเว้น ไนโตรเจน เมื่อไม่มีตัวจับประจุบวก พืชก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากปุ๋ยเคมีที่เราใส่ลงไปในดินได้เลย ใช้ได้แต่ไนโตรเจน มันสำปะหลังก็เลยโตแต่ต้น แต่ไม่ลงหัว
มาถึงตรงนี้คงพอจะเห็นประโยชน์ของ อินทรีย์วัตถุกันแล้วนะครับ อินทรีย์ที่พืชขาดมานาน พืชไม่ได้ขาดปุ๋ย แต่พืชขาด อินทรีย์วัตถุ อินทรีย์วัตถุมีประสิทธิภาพในจับอิออนของปุ๋ยให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้
ฉนั้นเมี่อรู้อย่างนี้เรามาเพิ่มอินทรีย์วัตถุ ลงสู่ดินให้พืชกันเถอะ อินทรีย์วัตถุเอามาจากไหน มูลสัตว์ทั้งปวงคืออินทรีย์วัตถุ ซากพืช เปลือกไม้ ใบไม้ เศษหญ้า คืออินทรีย์วัตถุ

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช

ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช

เป็นรูปภาพโครงสร้างที่อยู่ในใจทุกครั้งเวลาผมจะทำการปลูกพืช ผมอยากให้ภาพนี้ติดอยู่ในใจของเกษตรกรทุกท่านที่จะทำการปลูกพืช ถ้าเราไม่เข้าใจความต้องการเบื้องต้นของพืชแล้ว การปลูกพืชทุกครั้งของเราก็จะประสบกับปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่นปลูกแล้วพืชไม่โต ปลูกพืชแล้วอ่อนแอ ขี้โรค ปลูกพืชแล้วโตแต่ต้นไม่ได้ผลผลิต หรือ ได้ผลผลิตแล้วแต่รสชาติไม่อร่อยไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
เรามาเรียนรู้เรื่องดินกันบ้างนะครับ ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชให้เจริญเติบโตได้ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
องค์ประกอบของดิน ที่ปลูกพืชแล้ว พืชเจริญเติบโตได้ดี ต้องประกอบด้วย 4 สัดส่วนที่สมดุลซึ่งกันและกันดังนี้
(1) อนินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการผุพังสลายตัวของหินและแร่ เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช ดินส่วนใหญที่ใช้ปลูกพืชในประเทศไทย มีอนินทรียวัตถุเป็นสวนประกอบถึงรอยละ 97-99 ของน้ำหนักแห้งของดิน
(2) อินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการเน่าเปื่อยผุพังสลายตัวของ เศษซากพืชและสัตวที่ทับถมกันอยูในดิน อินทรียวัตถุมีปริมาณธาตุอาหารพืช อยูน้อย แตมีความสำคัญในการทำใหดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและถายเท อากาศไดดี ทั้งยังเป็นแหลงพลังงานของจุลินทรีย็ดิน ดินสวนใหญที่ใชเพาะปลูกพืชในประเทศไทยมีอินทรียวัตถุเหลืออยู่น้อยมากๆ โดยเฉพาะอยางยิ่งดินใน ภาคอีสาน มีอินทรียวัตถุต่ำมาก ไม่ถึงถึง 1เปอร์เซ็นต์ ฉนั้นเกษตรกรจึงควรให้ความสำคัญต่อการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน
(3) น้ำในดิน ทำหน้าที่ ช่วยละลายธาตุอาหารพืชในดิน และจำเป็น สำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายธาตุอาหาร และสารประกอบตางๆ ในต้นพืช
(4) อากาศในดิน ทำหน้าที่ให้ ออกซิเจนแก่รากพืชและจุลินทรียดิน ช่องว่างอากาศในดินมีส่วนทำให้ดินโปร่ง ร่วน ซุย รากพืชเจริญเติบโตได้ดี
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วว่า พืชต้องการดินแบบใด เราก็นำความรู้นี้มาปรับปรุงดินเพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าเราจะปลูกพืชลงดิน เราจะปลูกพืชลงกระถาง ปลูกพืชในวงบ่อ
ซึ่งโอกาสต่อไปเราจะได้มาเรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการปลูกกันต่อนะครับ

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การขยายเชื้อน้ำหมักรำข้าวให้ได้ใช้นาน ๆ

การขยายเชื้อน้ำหมักรำข้าวให้ได้ใช้นาน ๆ


 หลังจากเราทำน้ำหนักรำข้าวครบกำหนด 15 วัน แล้วเราก็นำไปใช้ราดโคนต้นพืชเพื่อช่วยในการขยายรากพืชแล้ว เราไม่ควรใช้จนหมดถัง เพื่อส่วนที่เหลือจะได้นำมาขยายเชื้อเพื่อใช้ในครั้งต่อไปได้อีก เช่น เราทำน้ำหมักรำข้าวถัง 200 ลิตร ให้เราใช้ไป 150 ลิตร อีก 50 ลิตรให้เก็บไว้ต่อขยายเชื้อต่อ

วิธีการต่อขยายเชื้อน้ำหมักรำข้าว

1.ใช้น้ำหมักรำข้าวเก่าเป็นสารตั้งต้น 30-50 ลิตร
2.ให้เติมรำข้าวลงไป 1-2 กิโลกรัม

3.เติมน้ำให้เต็ม 200 ลิตร

4. ใช้ไม้คนเพื่อเติมอากาศ ทุก 3 วัน (ถ้าคนทุกวันก็จะย่อยสลายและเชื้อขยายเร็ว)

5. ใช้เวลา 7-10 ก็นำไปใช้ต่อได้ ให้สังเกตรำข้าวถูกย่อยสลายจนหมด

วิธีการใช้ :ใช้เหมือนกับน้ำหมักรำข้าวรอบแรก

1.ใช้อัตราเข้มข้นราดดินแล้วรดน้ำให้ชุ่มตามบริเวณโคนต้นพืชเพื่อขยายรากพืช อัตรา 1-5 ลิตรตามขนาดของพืช

2.ใช้อัตราเข็มข้นราดลงถุงเพาะชำกล้าไม้ 250 ซีซี.แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม

3. อัตรา 100-200 ซีซี.ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นลงดินให้พืชผัก จะทำให้ พืชผักเจริญเติบโตดี

หมายเหตุ : น้ำหมักรำข้าวมีวิตามินบี1สูง สำหรับพืช วิตามินบี1 (Thiamine) ช่วยฟื้นฟูู บำรุงระบบรากพืชให้แข็งแรง และยังช่วยในการแตกราก และเจริญเติบโตของราก เมื่อพืชได้รับวิตามินบี1 จะทำให้พืชสดชื่น พร้อมที่จะเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายต้นกล้าพืช การให้ วิตามินบี1แก่ต้นกล้าที่ย้ายปลูกลงแปลงจะทำให้ต้นกล้าไม่เหี่ยวเฉาและทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี
ไปต่อเชื้อใช้เองกันนะครับจะได้ประหยัด

ขอบคุณภาพแห่งความขยัน การต่อขยายเชื้อน้ำหมักจากรำข้าวของน้องไพโรจน์(หมู) เกษตรกรผู้มีความคิดก้าวไกลจาก อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ID line : aoacthai


สูตรการทำน้ำหมักรำข้าว                                                                   http://aoacthai.blogspot.com/2016/01/blog-post.html

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

การใช้น้ำหมักรำข้าว ในการช่วยขยายรากมะนาวในถุงชำ

การใช้น้ำหมักรำข้าว ในการช่วยขยายรากมะนาวในถุงชำ

การปลูกมะนาวด้วยกิ่งตอน เราควรนำกิ่งตอนมาชำในถุงดำก่อนเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณรากทำให้รากพืชขยายตัวได้ดีก่อน จากนั้นจึงนำไปปลูกในท่อวงบ่อหรือ ในแปลงปลูก
เพราะถ้านำกิ่งตอนไปปลูกลงแปลงเลย รากที่ไม่แข็งแรงพอ หรือ รากที่มีปริมาณน้อย จะทำให้กิ่งตอนตายได้ง่าย ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเพราะปัจจุบันราคากิ่งตอนอยู่ที่ 50 -100 บาท ถ้าเป็นกิ่งพันธุ์ดัง ๆ มีการโฆษณาก็จะมีราคากิ่งตอนถึงกิ่งละ 300 บาท
ฉะนั้นการอนุบาลกิ่งตอนที่ดีจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความเสี่ยงในการผลิตพืช และจะทำให้ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู
วันนี้ขอนำเสนอ การใช้น้ำหมักรำข้าว ในการช่วยขยายรากมะนาวในถุงชำ
ขั้นตอนง่าย ๆ
1. ใช้ถุงชำขนาด 9x 11 นิ้ว กรอกใส่ดินผสมสำหรับชำมะนาวให้ได้ 3/4 ของถุง แล้วกดดินให้แน่นกำลังดี
2.นำกิ่งตอนมะนาวแกะถุงพลาสติกที่ตอนออกและนำใส่ลงในถุงชำเอาดินใส่ให้เต็ม (ขั้นตอนต้องระวังไม่ให้ปลูกลึกเกินไปเพราะกิ่งตอนต้องการอากาศในการเจริญเติบโต)
3.นำไม้มาปักช่วยพยุงต้นมะนาวไม่ให้ล้ม
4.นำน้ำหมักรำข้าวเข้มข้นมาราดลงถุงให้ชุ่มและรดน้ำตามให้เปียกชุ่ม
แล้วนำไปเก็บไว้ในโรงเรือนเพื่อรอให้รากเดินดี 

ขั้นตอนที่4 ควรทำทุก 7 วัน ประมาณ 15-21 วันรากก็จะเดินดีพร้อมนำไปปลูกลงแปลงแล้วครับ
หมายเหตุ: น้ำหมักรำข้าวมีวิตามินบี1สูง วิตาบี1 ช่วยฟื้นฟูู บำรุงระบบรากพืชให้แข็งแรง และยังช่วยในการแตกราก และเจริญเติบโตของราก เมื่อพืชได้รับวิตามินบี1 จะทำให้พืชสดชื่น พร้อมที่จะเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายต้นกล้าพืช การให้ วิตามินบี1แก่ต้นกล้าที่ย้ายปลูกลงแปลงจะทำให้ต้นกล้าไม่เหี่ยวเฉาและทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี

ลองไปทำกันดูนะครับ สำหรับท่านที่ชอบปลูกมะนาว และวิธีการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับปลูกพืชชนิดอื่นได้ครับ

: ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ID line : aoacthai  

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

การแก้ปัญหาต้นกล้วยรากไม่เดินด้วยน้ำหมักรำข้าว

การแก้ปัญหาต้นกล้วยรากไม่เดินด้วยน้ำหมักรำข้าว

กล้วยเป็นอะไรที่มันกล้วย ๆ ปลูกง่าย โตเร็ว ปลูกที่ไหนก็ขึ้น ไม่ต้องดูแลมาก คนโบราณถึงกับบอกว่าถ้าชาตินี้ปลูกกล้วยยังไม่ขึ้นก็ไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว
นั่นมันสมัยโบราณ แต่สมัยนี้การปลูกกล้วยมันอาจจะไม่ค่อยจะกล้วย ๆ แล้วนะครับ เนื่องจากดินที่ผ่านการใช้งานมานาน ใส่ปุ๋ยเคมีทับถมกันมาเรื่อย ๆ หลายปี จนหน้าดินแห้งตายสนิท รดน้ำเท่าไหร่ก็ไม่ลง ขนาดเอาอีเตอร์ 
(สองเขาขุด)ุ ยังขุดไม่ลงเลย ดินกลายเป็นดินดาน ไม่เหมาะสมกับการปลูกพืช ขนาดวัชพืชยังไม่กล้าขึ้น
ถ้าเราจำเป็นต้องปลูกกล้วยที่ดินไม่เหมาะสมกับการปลูกพืช ดินถม ดินดาน เราจะแก้ไขปัญหาต้นกล้วยไม่โต ต้นกล้วยแคระแกร็นอย่างไร
วันนี้เรามาเรียนรู้การใช้น้ำหมักจากรำข้าวมาแก้ปัญหาต้นกล้วยรากไม่เดินกันนะครับ
1.ให้เอาแแฉลง หรือ อีเตอร์(สองเขาขุด) ขุดพรวนดินรอบต้นกล้วยให้เป็นหลุมลึก (ดูตามในรูป)


2. ใช้จอบเซาะให้เป็นทางน้ำรอบโคนต้นกล้วย
3.ใช้น้ำหมักจากรำข้าวเข้มข้น 1-2 ถัง ราดรอบทรงพุ่มตามร่องน้ำที่เราขุด(ต้นเล็กราด 1 ถัง ต้นใหญ่ราด 2 ถัง)

4.ให้ราดน้ำตามให้ท่วมร่องรอบโคนต้นกล้วย ตามที่เราขุดเอาไว้


เอาน้ำหมักจากรำข้าวราดทุก 10 วัน แล้วรดน้ำตาม ไม่นานต้นกล้วยของท่านก็จะโตได้ดั่งใจ จุลินทรีย์ไวท์อีเอ็มในน้ำหมักรำข้าว จะทำให้ดินโปร่ง ร่วน ซุยมากขึ้น เพิ่มออกซิเจนให้กับดิน เพราะเป็นจุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนในการหายใจ  ลดความเป็นกรด-ด่างในดิน ทำให้ดินเหมาะสมต่อการปลูกพืช

การเพิ่มจุลินทรีย์ให้กับดิน ทำให้ดินมีชีวิต ทำให้ระบบรากเจริญเติบโตได้ดี จุลินทรีย์ยังช่วยย่อยสลายธาตุอาหารต่าง ๆ ให้กับพืช

การเติมน้ำหมักรำข้าวให้กับรากพืช ในน้ำหมักรำข้าวมีวิตามินบี1สูง ตามินบี1 (Thiamine)
ช่วยฟื้นฟูู บำรุงระบบรากพืชให้แข็งแรง และยังช่วยในการแตกราก และเจริญเติบโตของราก

เอาวิธีการนี้ไปลองทำกันดูนะครับ รับรองกล้วย หรือ พืชอื่นๆ ที่ท่านปลูกจะเจริญเติบโตได้ดี ไม่มีโรคภัย เมื่อระบบรากพืชแข็งแรง ต้นพืชก็แข็งแรงครับ


: ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อชมรมเกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า โทร 0860596790  ID line : aoacthai